โลกดิจิทัลของเรากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็เช่นกัน ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้า แฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์ก็ปรับตัวและพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เพื่อหลอกลวงและโจมตีผู้ใช้ที่ไม่ระวัง บทความนี้จะสำรวจภัยคุกคามไซเบอร์ที่น่ากลัวที่สุด 5 อันดับในปี 2023 และวิธีที่คุณสามารถปกป้องตัวเองได้
1. การโจมตีด้วย Ransomware ขั้นสูง
Ransomware ยังคงเป็นหนึ่งในภัยคุกคามไซเบอร์ที่ร้ายแรงที่สุด โดยในปี 2023 เราเห็นการพัฒนาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นของมัลแวร์ประเภทนี้ แฮกเกอร์ไม่เพียงเข้ารหัสข้อมูลของคุณและเรียกค่าไถ่เท่านั้น แต่พวกเขายังขู่ว่าจะเผยแพร่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหากไม่ได้รับการชำระเงิน วิธีการนี้เรียกว่า "double extortion" และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
วิธีป้องกัน:
- สำรองข้อมูลสำคัญอย่างสม่ำเสมอและเก็บไว้แยกจากระบบหลัก
- ติดตั้งอัปเดตซอฟต์แวร์และแพตช์ความปลอดภัยทันที
- ใช้ระบบป้องกันมัลแวร์และไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่ง
- ฝึกให้ตระหนักถึงอีเมลและลิงก์ที่น่าสงสัย
- ใช้ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่อออนไลน์
2. การโจมตีแบบ Phishing ที่มีเป้าหมายเฉพาะ
ในขณะที่การโจมตีแบบ phishing ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทคนิคที่ใช้ในปี 2023 มีความซับซ้อนมากขึ้น เราเห็นการเพิ่มขึ้นของ "spear phishing" ซึ่งเป็นการโจมตีที่ออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับเหยื่อรายบุคคล แฮกเกอร์ใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นๆ เพื่อสร้างอีเมลหรือข้อความที่น่าเชื่อถืออย่างมาก
— ธนาคม พงษ์ประเสริฐ, ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัย, MarketLaunch VPN"ความสำเร็จของการโจมตีแบบ phishing ขึ้นอยู่กับความสามารถในการหลอกลวงผู้ใช้ ยิ่งข้อความมีความเฉพาะเจาะจงมากเท่าไร โอกาสที่เหยื่อจะถูกหลอกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น"
วิธีป้องกัน:
- ตรวจสอบที่อยู่อีเมลและชื่อผู้ส่งเสมอ แม้จะดูคุ้นเคย
- ระวังข้อความที่สร้างความรู้สึกเร่งด่วนหรือขู่ว่าจะมีผลร้ายแรง
- อย่าคลิกลิงก์ในอีเมลโดยตรง แต่ให้พิมพ์ URL ในเบราว์เซอร์ของคุณเอง
- ใช้การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) สำหรับบัญชีทั้งหมดเมื่อเป็นไปได้
- ใช้ VPN เพื่อเพิ่มชั้นการป้องกันเมื่อเข้าสู่ข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำธุรกรรมออนไลน์
3. การโจมตีบนอุปกรณ์ IoT
อุปกรณ์ Internet of Things (IoT) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากกล้องรักษาความปลอดภัยไปจนถึงตู้เย็นอัจฉริยะ บ้านของเรามีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ น่าเสียดายที่อุปกรณ์เหล่านี้มักมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ ทำให้พวกมันเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับแฮกเกอร์
ในปี 2023 เราเห็นการเพิ่มขึ้นของการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT เพื่อสร้างเครือข่าย botnet ขนาดใหญ่ ขโมยข้อมูลส่วนบุคคล หรือแม้แต่เข้าสู่เครือข่ายบ้านและสำนักงาน
วิธีป้องกัน:
- เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้นบนอุปกรณ์ IoT ทั้งหมด
- อัปเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
- สร้างเครือข่าย Wi-Fi แยกสำหรับอุปกรณ์ IoT หากเป็นไปได้
- ปิดคุณสมบัติและพอร์ตที่ไม่จำเป็นบนอุปกรณ์
- ติดตั้ง VPN บนเราเตอร์เพื่อปกป้องการสื่อสารของอุปกรณ์ IoT ทั้งหมด
4. การโจมตี Supply Chain
การโจมตี supply chain เกิดขึ้นเมื่อแฮกเกอร์บุกรุกเข้าสู่ระบบของซัพพลายเออร์หรือผู้ให้บริการบุคคลที่สาม เพื่อเข้าถึงข้อมูลหรือระบบขององค์กรเป้าหมาย การโจมตีเหล่านี้มีความซับซ้อนและตรวจจับได้ยาก เนื่องจากมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้
กรณีที่มีชื่อเสียงในปี 2023 รวมถึงการโจมตีผ่านอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ถูกบุกรุก ทำให้องค์กรหลายพันแห่งได้รับผลกระทบจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
วิธีป้องกัน:
- ตรวจสอบพาร์ทเนอร์และผู้ขายอย่างรอบคอบก่อนการทำงานร่วมกัน
- ใช้การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของอัปเดตซอฟต์แวร์
- จำกัดการเข้าถึงระบบและข้อมูลภายในตามความจำเป็นเท่านั้น
- ติดตามการเชื่อมต่อจากบุคคลที่สามอย่างต่อเนื่อง
- ใช้ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารกับพาร์ทเนอร์และผู้ขาย
5. การโจมตี AI-Powered
ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (ML) กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ แฮกเกอร์ก็กำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้เช่นกัน ในปี 2023 เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของการโจมตีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถปรับตัวและเรียนรู้จากความพยายามในการป้องกัน
ตัวอย่างหนึ่งคือการสร้าง deepfake ที่สมจริงมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้เพื่อปลอมแปลงข้อมูลประจำตัว หลอกระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือแม้แต่สร้างข่าวปลอมที่น่าเชื่อถือ
วิธีป้องกัน:
- ใช้วิธีการยืนยันตัวตนหลายปัจจัย
- ตรวจสอบแหล่งข้อมูลเสมอก่อนที่จะเชื่อเนื้อหาออนไลน์
- อัปเดตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ
- ใช้เทคโนโลยีตรวจจับ deepfake เมื่อมีความเสี่ยงสูง
- ใช้ VPN ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อป้องกันการลักลอบดูข้อมูลและการโจมตี
MarketLaunch VPN: การปกป้องทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัล
เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ การมีชั้นการป้องกันเพิ่มเติมเป็นสิ่งสำคัญ MarketLaunch VPN ให้การปกป้องชั้นเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสขั้นสูงและคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านภัยคุกคามสมัยใหม่
บริการ VPN ของเราไม่เพียงแต่เข้ารหัสการสื่อสารของคุณและซ่อนที่อยู่ IP ของคุณเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับการป้องกันมัลแวร์ การป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ kill switch อัตโนมัติที่ป้องกันข้อมูลของคุณในกรณีที่การเชื่อมต่อ VPN หลุด
เสริมการป้องกันของคุณวันนี้
ปกป้องตัวคุณเองจากภัยคุกคามไซเบอร์ด้วย MarketLaunch VPN ทดลองใช้ฟรี 7 วัน ไม่มีข้อผูกมัด
เริ่มต้นฟรีสรุป
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และแฮกเกอร์กำลังใช้เทคโนโลยีและเทคนิคที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ การตระหนักถึงภัยคุกคามล่าสุดและการใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสม เช่น การใช้ VPN ที่เชื่อถือได้ การอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ และการรักษาความตระหนักด้านความปลอดภัย สามารถช่วยปกป้องข้อมูลและอุปกรณ์ของคุณได้
ในโลกที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเรามีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ การลงทุนในความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น พร้อมกับเครื่องมือที่เหมาะสมและความรู้ คุณสามารถนำหน้าอาชญากรไซเบอร์และรักษาความปลอดภัยดิจิทัลของคุณได้